• ห้ามเหยียบเบรกตลอดเวลา  

การขับรถลงเขานั้นถือว่ามีความอันตรายเช่นกัน แม้ไม่ต้องห่วงว่ารถจะไม่มีกำลัง แต่ความเร็วรถที่เกิดขึ้นจากการไหลลงทางลาดชันของถนน หากต้องเหยียบเบรกเพื่อชะลอรถตลอดเวลา หรือบ่อยมากเกินไป จะทำให้เกิดความร้อนในวงจรห้ามล้อ น้ำมันเบรกเดือดและวงจรล้มเหลว ที่มาของคำว่าเบรกแตก และควรใช้เกียร์ต่ำเพื่อช่วยชะลอความเร็วรถร่วมด้วยเพื่อแบ่งเบาภาระของเบรก

• ใช้เกียร์ต่ำทุกครั้งที่ลงเขา

การขับรถลงเขานั้นควรใช้เกียร์ต่ำเป็นหลัก เกียร์ธรรมดา คือ เกียร์ 1-2 เกียร์ออโต้ คือ เกียร์ D2, D1, 2 หรือ L ตามระดับควงามชัน ผู้ขับขี่จะรู้สึกถึงการหน่วงของรถได้ว่ามากไปหรือน้อยไป ซึ่งการใช้เกียร์ต่ำ เครื่องยนต์จะมีแรงฉุด แรงดึงของเครื่องยนต์ด้วยอัตราทดเกียร์ หรือที่เรียกกันว่า Engine Brake เป็นตัวช่วยในการลดความเร็วและลดการใช้เบรก

• ไม่ควรแช่คลัตช์

ในรถเกียร์ธรรมดาขณะขับลงเขาไม่ควรเหยียบคลัตช์ค้างไว้ เพราะการเหยียบคลัตช์แช่ไว้ เหมือนเป็นการเข้าเกียร์ว่าง จะทำให้กำลังแรงฉุดของเครื่องยนต์หายไป รถจะมีความเร็วเพิ่มมากขึ้น เมื่อต้องเบรก เบรกก็จะต้องทำงานหนักกว่าปกติ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ 

• ไม่ควรใช้เกียร์ว่างลงเขา

สำหรับในรถเกียร์ธรรมดา และรถเกียร์ออโต้ การใช้เกียร์ว่าง หรือเกียร์ N ลงเขาถือเป็นสิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด อย่าหวังเอาความประหยัดแบบผิดวิธี เพราะรถจะไม่มีแรงฉุดหรือแรงดึงจากเครื่องยนต์เลย ทำให้รถไหลลงเขาด้วยความเร็วสูง เบรกอาจเอาไม่อยู่จนเกิดอุบัติเหตุ

• บีบแตรส่งสัญญาณเตือนเป็นระยะ

ไม่ว่าจะเป็นการขับรถขึ้นหรือลงเขา หากเส้นทางมีลักษณะเป็นโค้ง หรือเป็นมุมอับสายตา ก่อนถึงบริเวณนั้น ๆ ควรบีบแตรเพื่อส่งสัญญาณเตือนรถที่กำลังจะขับสวนมาเพื่อให้อีกฝ่ายได้เพิ่มความระมัดระวัง